วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2550

บทกวี

ลำเซียงทา

ล่องไหลมาเนิ่นนาน.....ทานทน ฝน-ร้อน-หนาว
ปล่อยไอหมอกขาวลอยล่องสู่ท้องฟ้า
เมฆมหึมาก่อฝน....เหนือโป่งขุนเพชร
ในหุบห้วยล้วนร่องธารที่ผ่านมา
เวลานาทีไม่มีใครรู้
เพียงกระพริบไหวของสายตาแห่งหมู่เมฆ
ลมโยกเยกฝนใหญ่โปรยปราย
ลำเซียงทามาจากหุบห้วยใหญ่
ไหลล่องผ่านปี-เดือน
ไผ่ไหวเหนือสายน้ำลำเซียงทายามลมผ่านผิว
ปลิดปลิวเคว้งคว้างพลิ้วไหวอ่อนโยน
ลำเซียงทาโอบอุ้ม-อุ่นเอื้อ

บทกวี

เรือใบไม้กับการล่องไหลของสรรพชีวิต

ลอยล่องเคว้งคว้างจากต้นสูง
ละลิ่วกับสายลมพัดโปกโบย
ไร้จุดหมาย แต่มีจุดหมาย
ฤดูกาลเยี่ยมเยือน
หนาว-ร้อน-ฝน
ชุ่มชื่น-สดใส-ผลิใบ
วูบหนึ่งของสายลมแห่งฤดูกาล
ใบไม้เขียวสดแห้งกรังชราภาพ
หลุดร่วงลอยล่อง
สายน้ำแห้งขอดเบื้องล่าง
หินกลมมนได้สัดส่วนด้วยสายน้ำ
ใบไม้ทิ้งกิ่งก้านลอยล่องในท้องน้ำ
มดแดง-มดดำ หนีน้ำ-หนีตาย
หลังปีนป่ายก้อนหินผิดพลาด
หกขาเกาะกุมใบไม้ชราแน่นนิ่ง
เรือใบไม้กับผู้โดยสารคุ้นเคยตากลับคืนสู่ฝั่งปลอดภัย-ไร้ภัย

บทกวี

ภาพแห่งสันติภาพ

เราต่างดิ้นรนบอกกล่าวสันติภาพแก่กันและกัน
ใช่ ! สันติภาพมันหลบเร้นอยู่ในทุกอณูวิญญาณของผู้คน
มินานนักก็มีผู้กล่าวว่า
“เราพบเจอมันแล้วสันติภาพ”
แต่อีกฟากฝั่งหนึ่งแห่งแผ่นดิน
สงครามแห่งการแย่งชิงกำลังเดือดระอุ
เปลวไฟสีแดงลุกโชติช่วงดั่งแดดร้อนเดือนห้าแห่งพื้นดินทุ่งกุลา
นิวเคลียร์อาวุธเชื้อโรคก่อกำเนิดนานมาแล้ว
นกเหล็กตัวการของความพินาศถูกพัฒนาขึ้นมานัยว่า เพื่อสันติภาพ
ประเทศมหาอำนาจกล่าวอ้างเพื่อสันติภาพ
ใช่!เพื่อสันติภาพ
นกพิราบขาวตัวสุดท้ายของฝูงดับดิ้นลงสู่พื้นดิน
เชื้อโรคจากอาวุธร้ายหัวเราะ
เทพีผู้เลอโฉมยืนโดดเด่นท้าทายสายลมแสงแดด
มือข้างหนึ่งถือคบเพลิงเพื่อรอเผาพลาญสรรพสิ่ง
อีกข้างหนึ่งถือคำภีร์
ริมฝีปากของเธอขยับบอกกล่าว “สันติภาพจอมปลอม”